วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2557

Le Mont-Saint-Michel


มง-แซ็ง-มีแชล


มง-แซ็ง-มีแชล (ฝรั่งเศสLe Mont-Saint-Michel) คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์ม็องดีของประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าว      ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมง-แซ็ง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยงยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซา
      ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็นหินแกรนิต โดยมีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 แมตร ถือเป็นปราการธรรมชาติตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยตั้งชื่อตามวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขานั่นเอง บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของอัครทูตสวรรค์มีคาเอล (นักบุญมิคาเอล) สร้างโดยเอมานูแอล เฟรมีเย (Emmanuel Frémiet)ในปัจจุบัน มีประชากรอยู่อาศัยบนเกาะ 44 คน จากสถิติ
            ก่อนที่จะมีการสถาปนาราชวงศ์แรกของฝรั่งเศสขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 เกาะนี้เคยถูกเรียกว่า มงตงบ์ (Mont Tombe) และตามตำนาน วิหารที่อยู่บนเกาะนี้ถูกสร้างโดยการแนะนำของเทวดามีแชล ที่ได้เข้าฝันนักบุญโอแบร์ บิชอปแห่งมาฟร็องช์เมื่อปี พ.ศ. 1251 แต่เขาก็มิได้ปฏิบัติตาม เนื่องจากนึกว่าปีศาจได้มาเข้าฝัน เขาจึงได้เพิกเฉยไป จนมาถึงการฝันครั้งที่ 3 มีแชลได้ใช้นิ้วของเขาจิ้มที่หัวของโอแบร์ และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็ได้ตะลึงว่ามีรูอยู่บนหัวจริง ๆ จากนั้นมาเขาจึงตัดสินใจสร้างวิหารบนยอดเขา
    ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส เนื่องจากไม่มีพระจำพรรษา ตัววิหารได้ถูกเปลี่ยนเป็นที่คุมขังนักโทษสำคัญการเมือง จนกระทั่งวิกตอร์ อูโก ได้มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์เพื่อคืนความเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญทางสถาปัตยกรรมของชาติ และในที่สุดได้มีการยกเลิกการเป็นเรือนจำ และได้ถูกเปลี่ยนสถานะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในปีค.ศ. 1874
    ในปีค.ศ.1979 ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรม โดยองค์การยูเนสโก
    ในอดีตการเดินทางไปยังมง-แซ็ง-มีแชล จะเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยถนนที่สามารถเดินทางได้ในช่วงน้ำลงเท่านั้น เนื่องจากระดับน้ำปกติจะท่วมและปิดกั้นผิวถนน โดยนักท่องเที่ยวและนักแสวงบุญ สามารถจอดรถได้ในช่วงที่น้ำลง และเนื่องจากมีถนนที่ตัดเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ ทำให้ทิศทางไหลของน้ำเกิดการผันแปร และเป็นผลทำให้ระยะทางระหว่างเกาะ กับแผ่นดินใหญ่นั้นสั้นลง อันเกิดจากการสะสมของดินตะกอนปากแม่น้ำ จนกระทั่งในปีค.ศ. 2006 นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้เริ่มโครงการเขื่อนกั้นน้ำ โดยจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยคืนสภาพความเป็นเกาะให้กับมง-แซ็ง-มีแชล โดยอาศัยการไหลของน้ำเพื่อชะล้าง และลดการสะสมของดินตะกอน โดยคาดว่าโครงการจะสำเร็จช่วงปีค.ศ.2015 ส่วนหนึ่งของโครงการคือสร้างเขื่อนกั้นน้ำ โดย ณ ปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว รวมถึงการเปลี่ยนถนนที่เชื่อมกับแผ่นดินเป็นสะพาน เพื่อให้น้ำสามารถหมุนเวียนได้โดยรอบเกาะ รวมถึงการย้ายที่จอดรถไปยังแผ่นดินใหญ่ โดยนักท่องเที่ยวจะสามารถจอดรถได้บนฝั่ง โดยจะมีรถรับส่งบริการจากจุดจอดรถถึงบริเวณเกาะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น