วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557

Jardin à la française

สวนฝรั่งเศส
          
         สวนฝรั่งเศส ช่วงปี ค.ศ 1650-1750 นั้น ได้รับอิทธิพลมาจากสวนแบบอิตาเลียน เมื่อครั้งพระเจ้าชาร์ลที่ 3 แห่งฝรั่งเศสทรงมีชัยเหนือดินแดนอิตาลีค่ะ สวนฝรั่งเศสจึงรับเอารูปแบบการจัดสวนมาใช้ ซึ่งก็คือการนำเอาประติมากรรมต่าง ๆ มาประดับประดาในสวน เช่น เทพปกรณัมตามตำนานตะวันตก รูปสัตว์ต่าง ๆ ในเทพนิยาย หรือรูปสลักใบหน้าคน เป็นต้น
          สวนฝรั่งเศส มีการจัดสวนที่มีระเบียบแบบแผน ตกแต่งพันธุ์ไม้ให้เป็นลวดลายเรขาคณิต โดยออกแบบให้เห็นเส้นแกน (Axis) ที่ทอดยาวไปจนสุดสายตา มีการกำหนดสัดส่วนในเชิงคณิตศาสตร์เพื่อให้ได้ทัศนียภาพที่สวยงาม เช่น การกำหนดทิศทางการมองเห็นภูมิทัศน์ภายนอกจากตัวอาคารในระยะต่าง ๆ กัน นิยมสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร โดยใช้ลูกเล่นในการจัดการสวนให้ดูเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ภายในอาคาร เช่น การจัดสวนให้มีพื้นที่ปิดล้อมโดยแบ่งเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ตามเทพนิยาย หรือเรื่องราวในวรรณกรรม เช่น สวน Jardin des Versailles ในพระราชวังแวร์ซายส์ ที่มีการตกแต่งและแบ่งสวนออกเป็นส่วนต่าง ๆ ประดับด้วยรูปปั้นของเทพต่าง ๆ ตามตำนานเทพนิยายกรีก อาทิ โพไซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเล เป็นต้น


         ในสมัยโบราณสวนฝรั่งเศสไม่ได้เป็นเพียงแค่สวนธรรดา ๆ เท่านั้นค่ะ แต่สวนคือเครื่องแสดงฐานะทางสังคมและเป็นสิ่งที่แบ่งแยกชนชั้นอีกด้วย ประวัติความเป็นมาของการจัดสวนฝรั่งเศสมีมาอย่างยาวนาน และแต่ละยุคแต่ละสมัยก็จะมีพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงดังนี้
         สวนฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17 สวนในยุคนี้ เน้นการจัดแบบผสมผสานและมีการควบคุมธรรมชาติให้อยู่ภายใต้แบบแผนที่กำหนด สวนจะถูกแบ่งเป็นส่วนย่อย ๆ ในสวนขนาดใหญ่ในรูปทรงเรขาคณิต โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 สิ่ง คือ กรงนก สัตว์ป่าที่หายาก และน้ำพุ การใช้องค์ประกอบทั้ง 3 ในสวนส่วนตัวของชนชั้นสูงก็เพื่อแสดงถึงความมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของ และเพื่อสร้างความเบิกบานใจให้กับแขกที่มาเยี่ยมเยือน


           ล่วงมาถึงศตวรรษที่ 18 ได้เกิดสไตล์การแต่งสวนแนวใหม่ขึ้นที่ประเทศอังกฤษ สวนเริ่มได้รับความนิยมให้เป็นสถานที่พักผ่อนและเดินเล่นสำหรับชนชั้นกลางชาวฝรั่งเศส การจัดสวนจึงเน้นในเรื่องของการค้นหาและกลับไปสู่ธรรมชาติ  ลักษณะเด่นของสวนยุคนี้ก็คือ ทางเดินที่ทอดยาวและคดเคี้ยวไปมา รายล้อมด้วยสวนและทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่หลายเอเคอร์ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนหลีกเร้นตัวเอง ได้เข้าไปอยู่ชนบทที่สงบเงียบ จะสังเกตได้ว่า รูปแบบของสวนฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 ได้เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง บรรยากาศของสวนที่มีเป็นระเบียบและมีรูปทรงเรขาคณิต ได้หายไป แต่เน้นการจัดสวนแบบธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากขึ้น
           ในศตวรรษที่ 19 สวนได้รับความนิยมถึงขีดสุดและได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชนชั้นกลางค่ะ ลักษณะของสวนได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 ค่อนข้างมาก คือ จากที่เคยมีการวางผังอย่างเป็นระเบียบเพื่อสร้างสิ่งที่น่าสนใจให้ผู้ที่เข้ามาเดินเล่นในสวน และมีการสร้างรูปทรงธรรมชาติที่มีอิสระ ตกแต่งด้วยดอกไม้ต่าง ๆ ช่วงศตวรรษที่19 นักจัดสวนได้หันมาสนใจเรื่องการปลูกต้นไม้และพุ่มไม้แทน เพื่อสร้างความรู้สึก ของสวนที่เหมาะแก่การเดินเล่น ให้ความรู้สึกของการพักผ่อนและความสนุกสนานในการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้แล้ว วงการแพทย์สมัยนั้น ยังตระหนักว่าการออกกำลังกายด้วยการเดินเล่นในสวนเป็นประจำจะส่งผลดีต่อสุขภาพ ทำให้ชนชั้นกลางและขนชั้นสูง นิยมใช้เวลาช่วงบ่ายด้วยการเดินเล่นในสวน จนกลายเป็นหนึ่งในวิถีชีวิตของชาวฝรั่งเศส นอกจากการได้พักผ่อนหย่อนใจแล้ว สวนยังกลายเป็นที่พบปะและเข้าสังคมของชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แบ่งแยกพวกเขาออกจากชนชั้นต่ำ และเพื่อให้เข้าใกล้ฐานะของชนชั้นสูงมากขึ้น
         ความนิยมสวนฝรั่งเศสในฐานะงานอดิเรกของชนชั้นกลางค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ นับตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 17 จนถึงศตวรรษที่ 19 และ 20 ด้วยรูปแบบการจัดสวนที่หลากหลายสไตล์ นอกจากนี้แล้วการ จัดสวนแบบฝรั่งเศส ยังมีอิทธิพลอย่างสูงต่อศิลปะการจัดสวนในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น